ของหวานคงเปรียบเสมือนกับ “ความรัก”
ถึงแม้มันจะ “ไม่จำเป็น” แต่เราก็ “ขาดไม่ได้”
เพราะขนมหวานกินแล้วอร่อย รสหวานฉ่ำ คลายเครียด อารมณ์ดีขึ้นโดยเฉพาะสาวๆถ้าคุณสาวๆโกธร หงุดหงิดไม่พอใจ คณผู้ชายลองพาเธอไปกินของหวานอร่อยๆที่เธอชอบสิคะ แต่ถ้าบริโภคมากไปโทษของมันก็ถึงกับเป็นเบาหวานได้เลยทีเดียว และอาจจะอันตรายต่อร่างกายของเราในระยะยาวอีกด้วยแต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็ยังอยากและชอบกินขนมหวานกันอยู่ดีจริงไหมแล้วถ้าเปรียบความรักกับของหวานแต่ละอย่างก็คงเปรียบได้แบบนี้
ขนมเค้ก
ขนมเค้กมีหลายแบบแล้วแต่ว่าคุณจะชอบแบบไหน จะเห็นว่าเค้กนั้นหอมหวาน น่าลิ้มลอง เค้กจะสมบูรณ์แบบต้องมีเนื้อเค้กที่อร่อยจริงเลือกกินแต่ครีมที่แต่หน้า…ก็จะเลี่ยน ถ้าเปรียบกับความรัก ถ้าคุณเลือกมองแต่ความสวยงามภายนอกก็จะได้รู้จักแต่ความรักอย่างผิวเผิน เหมือนที่ไม่ได้รู้จักความอร่อยของเนื้อเค้ก
บิงซู
มีทั้งความเย็นและหวาน ละมุนลิ้นละลายในปาก ชื่นช่ำหัวใจ พอลองตักเข้าไปชิมสักคำแล้วจะหยุดกินและฟินเคลิ้บเคลิ้มกับความอร่อยของบิงซูถ้าเปรียบความรักก็เหมือนบิงซู ถ้าไม่รีบกินมันก็ละลาย
ช็อคโกแลต
ช็อคโกแลตมีทั้งไวท์ช็อคโกแลตสีขาวและช็อคโกแลตสีดำและมีรสชาติขมและหวานปนกันไป ความรักว่า"รักคือการให้"ก็คงจะเหมาะกับไวท์ช็อคโกแลตชื่อก็บอกแล้วว่า "ไวท์" ก็เปรียบดั่งความรักที่ขาวบริสุทธิ์ มีความสุขที่จะรัก ไม่หวังอะไรตอบแทนส่วน ช็อคโกแลตดำ! รสชาติขมๆของมัน ก็เหมือนกับความรักที่มันไม่ได้ดั่งใจ อาจจะผิดหวังอาจจะโดนทิ้ง หรือ อกหัก รักคุ๊ด โดนตุ๊ดหลอกฟัน ความรักของช็อคโกแลตอาจขมไปบ้างแต่ความหวานจะตามมาภายหลัง
โมจิและไดฟุกุ
ทั้งโมจิและไดฟุกุจะมีลักษณะแป้งเหนียวนุ่มละมุนเวลาทานก็เหมือนความรักที่บางที่อาจยึดติดกับอะไรเก่าๆถ้าปล่อยไปเหมือนการที่เรากัดแป้งไดฟุกุหรือโมจิขาด ก็จะได้ลิ้มรสความนุ่มละมุนลิ้มของความสุขนั้นๆ